บริษัท ไทยสมายล์บัส จํากัด
นโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับผู้มาติดต่อ และร่วมกิจกรรมของบริษัท ไทย สมายล์ บัส
 

          บริษัท ไทยสมายล์บัส จำกัด และบริษัทในเครือ หรือในกลุ่มตามที่กำหนดในเอกสารแนบ (รวมต่อไปนี้เรียกว่า “บริษัท”) เคารพสิทธิความเป็นส่วนตัวและตระหนักถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลความเป็นส่วนตัวของผู้มาติดต่อ และร่วมกิจกรรมกับบริษัท (รวมต่อไปนี้เรียกว่า “ท่าน”) และเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าท่านได้รับความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจึงได้จัดทำนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ขึ้น เพื่อแจ้งให้ท่านทราบถึงรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับ วิธีการจัดการ การเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผย (รวมเรียกว่า “การประมวลผล”) รวมตลอดถึงวิธีการจัดการ การลบ และการทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (รวมต่อไปนี้เรียกว่า “การประมวลผล”) ทั้งช่องทางออนไลน์ และช่องทางอื่น ๆ ในทุกช่องทางตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด ดังนี้ 

          นโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับผู้เข้าร่วมกิจกรรม หรือผู้มาเข้าติดต่อ

          1. วัตถุประสงค์การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

                    1.1 เพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญา ใช้บริการ หรือติดต่อประสานงานกับบริษัท หรือเพื่อปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญากับบริษัท เช่น เมื่อท่านเข้าร่วมกิจกรรมของบริษัท หรือเมื่อท่านเข้ามาติดต่อบริษัทเพื่อให้ดำเนินการใด ๆ 

                    1.2 เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทหรือของบุคคลอื่น เช่น 

                              (1) เพื่อให้บริษัทบริหารจัดการ การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อพัฒนาและปรับปรุง 

                              (2) เพื่อวัตถุประสงค์ในการควบคุมการเข้าถึงอาคาร บริเวณภายในอาคาร และอินเตอร์เน็ต เพื่อประโยชน์ในการรักษาความปลอดภัย การป้องกันและการตรวจจับอาชญากรรม เป็นหลักฐานในการสืบสวนสอบสวน ทั้งกรณีมาตรการภายในบริษัท และการดำเนินการของหน่วยงานรัฐหรือองค์กรอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการทางกฎหมาย

                    1.3 เพื่อป้องกันและระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่านหรือบุคคลอื่น เช่น การติดต่อในกรณีฉุกเฉิน การควบคุมและป้องกันโรคติดต่อ

                    1.4 เพื่อให้สามารถปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น การปฏิบัติตามบทบัญญัติของกฎหมาย กฎระเบียบ และคำสั่งของผู้ที่มีอำนาจตามกฎหมาย

                    1.5 เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของบริษัท หรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐที่ได้มอบให้

                    1.6 กรณีที่ท่านให้ความยินยอม บริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล โดยจะแจ้งให้ทราบและขอความยินยอมจากท่านใหม่เป็นคราว ๆ ไป ทั้งนี้ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับความยินยอมได้ในข้อ 4

          2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวม

                    2.1 เมื่อท่านเข้าร่วมกิจกรรมใด ๆ ของบริษัท ไม่ว่ากิจกรรมดังกล่าวจะจัดโดยบริษัท หรือบุคคลที่บริษัทว่าจ้าง หรือเป็นกิจกรรมที่บริษัทมีส่วนร่วมในการจัดงาน บริษัทจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อท่านเข้าร่วมกิจกรรมของบริษัท หรือเข้ามาในบริเวณพื้นที่ของบริษัท ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม เช่น 

                              • ข้อมูลสำหรับการลงทะเบียน และการเข้าร่วมกิจกรรม เช่น ชื่อ นามสกุล อายุ ที่อยู่ เบอร์ติดต่อ อีเมล SMS   แชทออนไลน์ โซเชียลมีเดีย 

                              • ภาพและเสียง ทั้งภาพนิ่ง และภาพเคลื่อนไหว (บันทึกในการสัมมนาผ่านรูปถ่าย และวีดิโอในสถานที่จัดกิจกรรมของบริษัท) 

                              • กิจกรรมหรือเหตุการณ์ที่ท่านเคยเข้าร่วมในอดีตหรือที่เคยลงทะเบียนไว้

                              • รายละเอียดการชำระเงินและธุรกรรมทางการเงินของท่านที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรม

                    2.2 เมื่อท่านเป็นบุคคลทั่วไป ที่เข้ามาบริเวณพื้นที่ของบริษัท บริษัทจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลโดย

                              (1) เมื่อท่านเข้าในบริเวณพื้นที่ของบริษัท มีการเก็บภาพจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (“กล้อง CCTV”) ของบริษัท ทั้งนี้ บริษัทไม่ได้เก็บข้อมูลเสียงผ่านทางกล้อง CCTV  อย่างไรก็ดีบริษัทจะติดป้ายให้ทราบว่ามีการใช้กล้อง CCTV ในบริเวณพื้นที่ของบริษัท 

                              (2) บันทึกของผู้มาติดต่อ (visitor records)

                                        • ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม เช่น ชื่อ นามสกุล ชื่อบริษัท เบอร์โทรศัพท์ อีเมล ข้อมูลตามบัตรประจำประชาชน หรือ หลักฐานอื่นทำนองเดียวกัน 

                                        • เมื่อท่านต้องการเข้ามาภายในบริเวณบริษัทของบริษัทด้วยยานพาหนะ บริษัทอาจจะเก็บข้อมูลและบันทึกหมายเลขทะเบียนพาหนะ 

                              (3) เมื่อท่านใช้บริการ Wi-Fi ของบริษัท ท่านต้องทำการลงทะเบียน โดยข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมเพื่อดำเนินการให้บริการ Wi-Fi แก่ท่าน เช่น ชื่อนามสกุล เบอร์โทรศัพท์ อีเมล 

                    2.3 บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลชนิดพิเศษ (ข้อมูลอ่อนไหว) ตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด เพื่อใช้งานตามวัตถุประสงค์ที่บริษัทแจ้งไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ เช่น

                              • ในบางกรณี บริษัทอาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลชนิดพิเศษของท่าน แม้ว่าสินค้าหรือบริการนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับข้อมูลชนิดพิเศษโดยตรง เช่น บริษัทจำเป็นต้องใช้บัตรประชาชนของท่าน ซึ่งมีข้อมูลศาสนา เพื่อใช้ในการยืนยันตัวตนของท่าน 

                              • ข้อมูลสุขภาพ เช่น ข้อมูลการแพ้อาหาร เพื่อใช้ในการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ 

                    2.4 ในกรณีที่จำเป็น บริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลชนิดพิเศษ (ข้อมูลอ่อนไหว) ของท่านโดยได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่านหรือเพื่อวัตถุประสงค์อื่นตามที่กฎหมายกำหนดไว้เท่านั้น ทั้งนี้ บริษัทจะใช้ความพยายามอย่างดีที่สุดในการจัดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เพียงพอเพื่อปกป้องคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลชนิดพิเศษของท่าน

          3. การใช้คุกกี้ บริษัทมีการใช้คุกกี้เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ตามที่กำหนดไว้ตาม นโยบายการใช้คุกกี้ 

          4. การขอความยินยอมและผลกระทบที่เป็นไปได้จากการถอนความยินยอม

                    4.1 ในกรณีที่บริษัทเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดยอาศัยความยินยอมของท่าน ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมของท่านที่ให้ไว้กับบริษัทได้ตลอดเวลา ซึ่งการถอนความยินยอมนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมไปแล้วก่อนหน้านี้

                    4.2 หากท่านถอนความยินยอมที่ได้ให้ไว้กับบริษัทหรือปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลบางอย่าง อาจส่งผลให้บริษัทไม่สามารถดำเนินการเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์บางส่วนหรือทั้งหมดตามที่ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ได้

          5. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

                    5.1 บริษัทจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามประเภทข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละประเภท เว้นแต่กฎหมายจะอนุญาตให้มีระยะเวลาการเก็บรักษาที่นานขึ้น ในกรณีที่ไม่สามารถระบุระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลได้ชัดเจน บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลไว้ตามระยะเวลาที่อาจคาดหมายได้ตามมาตรฐานของการเก็บรวบรวม และอายุความตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง (เช่น อายุความตามกฎหมายทั่วไปสูงสุด 10 ปี)

                    5.2 กรณีกล้อง CCTV บริษัทจะเก็บข้อมูล

                              • ในสถานการณ์ปกติ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจถูกเก็บไว้นานถึง 30 วัน

                              • ในกรณีจำเป็น เช่น กรณีที่จำเป็นต้องใช้เป็นหลักฐานในการสืบสวน สอบสวน หรือการดำเนินคดี หรือกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลร้องขอ ข้อมูลส่วนบุคคลอาจถูกเก็บรักษาไว้เกินกว่า 30 วันและบริษัทจะดำเนินการลบข้อมูลดังกล่าวอย่างปลอดภัยเมื่อเสร็จสิ้นวัตถุประสงค์นั้น ๆ แล้ว

                    5.3 บริษัทจัดให้มีระบบการตรวจสอบเพื่อดำเนินการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาการเก็บรักษาหรือที่ไม่เกี่ยวข้องหรือเกินความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้น 

                    5.4 กรณีที่บริษัทใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยขอความยินยอมจากท่าน บริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจนกว่าท่านจะแจ้งขอยกเลิกความยินยอมและบริษัทดำเนินการตามคำขอของท่านเสร็จสิ้นแล้ว อย่างไรก็ดี บริษัท จะยังเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นสำหรับบันทึกเป็นประวัติว่าท่านเคยยกเลิกความยินยอม เพื่อให้ บริษัทสามารถตอบสนองต่อคำขอของท่านในอนาคตได้ 

          6. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้บุคคลอื่น

                    6.1 บริษัทอาจเปิดเผยและแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกับ

                              (1) บริษัทในเครือ หรือบริษัทในกลุ่มตามเอกสารแนบท้าย และ

                              (2) บุคคลและนิติบุคคลอื่นที่ไม่ได้เป็นบริษัทในกลุ่มของบริษัท (“บุคคลอื่น”) เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์การเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้เพียงเท่าที่จำเป็นและเป็นประโยชน์กับการนั้น ๆ เช่น ผู้ให้บริการที่เกี่ยวข้อง (เช่น ผู้ให้บริการกล้อง CCTV ผู้จัดงานและจัดกิจกรรมต่าง ๆ ผู้ให้บริการทางด้านเทคโนโลยี (เช่น ระบบคลาวด์ ระบบบล็อคเชน บริการส่ง SMS บริการ data analytics) ผู้ให้บริการจัดทำโปรแกรมและระบบไอทีต่าง ๆ ผู้ตรวจสอบ หน่วยงานของรัฐ และบุคคลอื่นที่จำเป็นเพื่อให้บริษัทสามารถดำเนินการต่าง ๆ ตามวัตถุประสงค์การเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้

                    6.2 บริษัทจะกำหนดให้ผู้ที่ได้รับข้อมูลมีมาตรการปกป้องข้อมูลของท่านอย่างเหมาะสมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเท่าที่จำเป็นเท่านั้น และดำเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจโดยมิชอบ 

          7. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ

                    7.1 บริษัทอาจส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบริษัทในเครือ หรือในกลุ่ม หรือบุคคลอื่นในต่างประเทศในกรณีที่จำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญา หรือเป็นการกระทำตามสัญญาระหว่างบริษัทกับบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นเพื่อประโยชน์ของท่านหรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญา หรือเพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่านหรือบุคคลอื่น เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย หรือเป็นการจำเป็นเพื่อดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ 

                    7.2 บริษัทอาจเก็บข้อมูลของท่านบนคอมพิวเตอร์เซิร์ฟเวอร์หรือคลาวด์ที่ให้บริการโดยบุคคลอื่น และอาจใช้โปรแกรมหรือแอปพลิเคชันของบุคคลอื่นในรูปแบบของการให้บริการซอฟท์แวร์สำเร็จรูปและรูปแบบของการให้บริการแพลตฟอร์มสำเร็จรูปในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน แต่บริษัทจะไม่อนุญาตให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลได้ และจะกำหนดให้บุคคลอื่นเหล่านั้นต้องมีมาตรการคุ้มครองความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม 

                    7.3 ในกรณีที่มีการส่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ บริษัทจะปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและใช้มาตรการที่เหมาะสมเพื่อทำให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะได้รับการคุ้มครองและท่านสามารถใช้สิทธิที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ตามกฎหมาย รวมถึงบริษัทจะกำหนดให้ผู้ที่ได้รับข้อมูลมีมาตรการปกป้องข้อมูลของท่านอย่างเหมาะสมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเท่าที่จำเป็นเท่านั้น และดำเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลอื่นใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจโดยมิชอบ 

          8. มาตรการความปลอดภัยสำหรับข้อมูลส่วนบุคคล

                    8.1 ความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นสิ่งสำคัญสำหรับบริษัทและบริษัทได้นำมาตรฐานความปลอดภัยทางเทคนิคและการบริหารที่เหมาะสมมาใช้เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลจากการสูญหาย การเข้าถึงการใช้หรือการเปิดเผยโดยไม่ได้รับอนุญาต การใช้งานในทางที่ผิด การดัดแปลงเปลี่ยนแปลง และการทำลายโดยใช้เทคโนโลยีและขั้นตอนการรักษาความปลอดภัย เช่น การเข้ารหัสและการจำกัดการเข้าถึง เพื่อให้มั่นใจว่าบุคคลที่ได้รับอนุญาตเท่านั้นที่เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและบุคคลเหล่านี้ได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับความสำคัญของการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล

                    8.2 บริษัทจัดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลจากผู้ที่ไม่มีสิทธิหรือหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลนั้น และจะจัดให้มีการทบทวนมาตรการดังกล่าวเมื่อมีความจำเป็นหรือเมื่อเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไปเพื่อให้มีประสิทธิภาพในการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม 

          9. สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

                    9.1 ท่านมีสิทธิตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยสรุปดังนี้

                              • สิทธิขอถอนความยินยอมที่ท่านได้ให้ไว้กับบริษัท เพื่อประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

                              • สิทธิขอเข้าถึงข้อมูล ขอดูและ หรือคัดลอกข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือขอให้เปิดเผยที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

                              • สิทธิขอส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น

                              • สิทธิขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่าน 

                              • สิทธิขอให้ลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้ (anonymous)

                              • สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

                              • สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด 

                              • สิทธิร้องเรียนต่อคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่บริษัทหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งลูกจ้างหรือผู้รับจ้างของบริษัทหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

          ทั้งนี้ บริษัทจะพิจารณาและแจ้งผลการพิจารณาตามคำร้องขอใช้สิทธิของท่านโดยเร็วภายใน 30 วันนับแต่วันที่บริษัทได้รับคำร้องขอดังกล่าว และสิทธิตามที่กล่าวมาข้างต้น เป็นไปตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

                    9.2 ท่านสามารถใช้สิทธิเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวตามกฎหมาย ได้โดยติดต่อที่ [email protected]   (โดยจะเริ่มใช้สิทธิได้เมื่อกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับกับผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล)

          10. ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลและเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล 

                    10.1 ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล: บริษัท ไทยสมายล์บัส จำกัด สถานที่ติดต่อ: เลขที่ 41/327 ถนนกัลปพฤกษ์ แขวงบางแค เขตบางแค กรุงเทพมหานคร 10160

                    10.2 ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทในเครือ หรือบริษัทในกลุ่มแยกตามแต่ละบริษัท 

          ตามรายละเอียดที่ปรากฏใน เอกสารแนบท้าย นโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ 

                    10.3 กรณีที่ท่านมีข้อสอบถามเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล email : [email protected]

          กรณีที่มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ บริษัทจะประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับใหม่ผ่านทางเว็บไซต์นี้ ซึ่งท่านควรเข้ามาตรวจสอบความเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวเป็นครั้งคราว โดยนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับใหม่จะมีผลบังคับใช้ทันทีในวันที่ประกาศ 01/02/2023